การเขียนย่อความ
การเขียนย่อความ
เป็นการเก็บความเรื่องหรือข้อความที่นักเรียนได้อ่านหรือได้ฟังจากสื่อต่าง ๆ
มาเขียน โดยยังคงเนื้อความที่สำคัญและจำเป็นสำหรับเรื่องราวนั้น
ข้อความเรื่องหนึ่ง
ๆ ที่ได้อ่านหรือฟังนั้น ประกอบด้วยใจความและพลความ
ใจความหมายถึง เนื้อความสำคัญที่จะขาดไปมิได้ ส่วนพลความ หมายถึง
ความปลีกย่อยที่สามารถตัดออกได้ เช่น การยกตัวอย่าง การเปรียบเทียบ การขยายความด้วยวงเล็บ
ส่วนประกอบของย่อความ ย่อความประกอบด้วยส่วนสำคัญ
๒ ส่วน ได้แก่ ส่วนนำ และส่วนใจความสำคัญของเรื่อง
- ส่วนนำเป็นแบบขึ้นต้นย่อความเพื่อบอกที่มาของเรื่องให้ผู้อ่านทราบ
- ส่วนเนื้อเรื่อง เป็นส่วนเนื้อหาที่เรียบเรียงแล้ว มีย่อหน้าเดียว
ความสำคัญของการย่อความ
ย่อความมีความจำเป็นในชีวิตประจำวันเพราะจะทำให้การเจรจา
การสื่อสารสัมฤทธิ์ผล ทั้งด้านกิจธุระ การศึกษาเล่าเรียน
คำให้การ การเขียนบันทึก การประชุม รายงาน ประกาศ แจ้งความ
จดหมาย เรียงความ เช่น
ย่อบันทึกการประชุมทำให้ผู้อื่นได้ทราบสาระสำคัญในการประชุมครั้งนั้น ๆ
ใช้เตือนความจำ เช่น จดย่อคำอธิบายของครู จดย่อความรู้จากการฟังและการอ่าน
ทำให้ไม่ต้องอ่านทวนซ้ำทั้งเล่ม ใช้ตอบข้อสอบแบบอัตนัย ใช้เล่าเรื่องย่อให้ผู้อื่นฟังเป็นต้น
สรุปอย่างสั้น ๆ ได้ว่า “สะดวกต่อการบันทึก จดจำ และนำไปใช้”
วิธีการย่อความ
๑. อ่านเรื่องอย่างละเอียดตลอดเรื่อง ถ้ามีประโยคหรือข้อความใดที่สงสัย ก็ต้องอ่านทบทวนและตีความให้แตก อย่าปล่อยให้เนื้อความตอนใดผ่านไปโดยที่ยังเข้าใจไม่ชัดเจน
๒. เมื่ออ่านจนจบเรื่องจนจำได้และเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างดี ให้เขียนบันทึกลำดับเรื่องที่ย่อ โดยไม่อ่านต้นฉบับเดิมเลย และใช้สำนวนของผู้ย่อความเอง
๓. นำเรื่องที่บันทึกไว้มาเรียบเรียงให้ต่อเนื่องกัน และทบทวนดูว่า ยังมีความตอนใดที่ยังตกหล่นอยู่อีกหรือไม่ ถ้ามีให้เพื่มเติมจนใจความครบถ้วน
๔. ตรวจทานแก้ไขเนื้อความให้ต่อเนื่องกันด้วยภาษาที่กระชับรัดกุม
๕. การย่อความนั้นอาจย่อ ๓ ใน ๔ หรือ ๑ ใน ๓ ของต้นเรื่องเดิม แล้วแต่ความต้องการ การย่อความที่ดีนั้นจะต้องมีประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับจุดมุ่งหมายของผู้เขียนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง อีกทั้งยังต้องเรียบเรียงด้วยภาษาที่กระชับ ไม่มีข้อความที่เป็นการยกตัวอย่างการเปรียบเทียบ การใส่วงเล็บ หรือข้อความในเครื่องหมายคำพูด
๑. อ่านเรื่องอย่างละเอียดตลอดเรื่อง ถ้ามีประโยคหรือข้อความใดที่สงสัย ก็ต้องอ่านทบทวนและตีความให้แตก อย่าปล่อยให้เนื้อความตอนใดผ่านไปโดยที่ยังเข้าใจไม่ชัดเจน
๒. เมื่ออ่านจนจบเรื่องจนจำได้และเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างดี ให้เขียนบันทึกลำดับเรื่องที่ย่อ โดยไม่อ่านต้นฉบับเดิมเลย และใช้สำนวนของผู้ย่อความเอง
๓. นำเรื่องที่บันทึกไว้มาเรียบเรียงให้ต่อเนื่องกัน และทบทวนดูว่า ยังมีความตอนใดที่ยังตกหล่นอยู่อีกหรือไม่ ถ้ามีให้เพื่มเติมจนใจความครบถ้วน
๔. ตรวจทานแก้ไขเนื้อความให้ต่อเนื่องกันด้วยภาษาที่กระชับรัดกุม
๕. การย่อความนั้นอาจย่อ ๓ ใน ๔ หรือ ๑ ใน ๓ ของต้นเรื่องเดิม แล้วแต่ความต้องการ การย่อความที่ดีนั้นจะต้องมีประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับจุดมุ่งหมายของผู้เขียนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง อีกทั้งยังต้องเรียบเรียงด้วยภาษาที่กระชับ ไม่มีข้อความที่เป็นการยกตัวอย่างการเปรียบเทียบ การใส่วงเล็บ หรือข้อความในเครื่องหมายคำพูด
การเขียนแบบขึ้นต้นย่อความสำหรับงานเขียนประเภทต่าง ๆ
๑. งานเขียนประเภทบทร้อยกรองต่าง ๆ เช่น โคลง ฉันท์ กาพย์
กลอน ร่าย ต้องบอกประเภทของบทร้อยกรอง ชื่อเรื่อง ผู้แต่ง ที่มา ว่ามาจากหนังสืออะไร
หน้าใด
รูปแบบ
ย่อ.....(ประเภทของร้อยกรอง).......เรื่อง......(ชื่อบทร้อยกรอง).......ของ......(ผู้แต่ง).............
ตอน.....(ชื่อตอน)......จาก.......(ชื่อหนังสือ)........หน้า.......(เลขหน้า)........ความว่า
.................(ใจความ)...................................................................................................................................................................................................................
ตัวอย่าง
ย่อ นิทานคำกลอน เรื่อง พระอภัยมณี ของ สุนทรภู่ ตอน พระอภัยมณีหนีผีเสื้อสมุทร
จากหนังสือเรื่องพระอภัยมณี หน้า ๑๔๕- ๑๖๐ ความว่า
พระอภัยมณีอยู่กับผีเสื้อสมุทรจนมีลูกอยู่ด้วยกัน
คือสินสมุทร.......
๒. งานเขียนประเภทร้อยแก้ว เช่น นิทาน ตำนาน บทความ สารคดี
ต้องบอก ประเภทของความเรียงร้อยแก้ว ชื่อเรื่อง ผู้แต่ง ชื่อหนังสือ หน้าใด
รูปแบบ
ย่อ.....(ประเภทของความเรียงร้อยแก้ว).......เรื่อง......(
ชื่อเรื่อง).......ของ.......(ชื่อผู้แต่ง).....
จาก.......(ชื่อหนังสือ)........หน้า.......(เลขหน้า)........ความว่า
จาก.......(ชื่อหนังสือ)........หน้า.......(เลขหน้า)........ความว่า
.................(ใจความ)...................................................................................
................................................................................................................................
ตัวอย่าง
ย่อ บทความ เรื่อง กรุงเทพฯ
เมืองสีเขียว ปลอดขยะ ของ สุนิรินธน์
จิระตรัยภพ จากเนชั่น สุดสัปดาห์ ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๘๕๙ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๑ หน้า ๑๕ ความว่า
กรุงเทพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
และเป็นเมืองที่ติดอันดับน่าท่องเที่ยว....................
๓. งานเขียนประเภท ประกาศ แถลงการณ์ กำหนดการณ์
ระเบียบคำสั่ง ให้บอกชื่อประเภท ชื่อเรื่อง ผู้แต่ง วัน เดือน ปี
รูปแบบ
ย่อ.....(ประเภทของงานเขียน).......เรื่อง......(
ชื่อเรื่อง)..............ของ.......(ชื่อผู้แต่ง)........
วัน เดือน ปี ............. ความว่า
วัน เดือน ปี ............. ความว่า
.................(ใจความ)..............................................................................
.............................................................................................................................
ตัวอย่าง
ย่อ กำหนดการ เรื่อง พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ของ สำนักพระราชวัง (วัน เดือน ปี) ระหว่างวัน ที่ ๑๔-๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ความว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีเสด็จพระราชดำเนินยังพิธีเพื่อ..............
๔. งานเขียนประเภท พระราชดำรัส พระบรมราโชวาท โอวาท ปาฐกถา
สุนทรพจน์ คำปราศัย ให้ระบุว่าพระราชดำรัส พระบรมราโชวาท โอวาท ฯลฯ เป็นของใคร
แสดงแก่ใคร ชื่อเรื่อง โอกาส สถานที่ วัน เดือน ปี
รูปแบบ
ย่อ.....(ประเภทของงานเขียน).......
ของ.......(ชื่อผู้แต่ง)........ พระราชทานแก่.................
เรื่อง......( ชื่อเรื่อง)..............ในโอกาส..............ณ..............เมื่อวันที่............. ความว่า
เรื่อง......( ชื่อเรื่อง)..............ในโอกาส..............ณ..............เมื่อวันที่............. ความว่า
.................(ใจความ).................................................................
..........................................................................................................................
ตัวอย่าง
ย่อ พระราโชวาท ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาส พิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ประจำปีการศึกษา ๒๕๔๙ ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
วิทยาเขตองครักษ์ จังหวัดนครนายก เมื่อ วันจันทร์ ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๔๙ ความว่า
ขอให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาพึงตระหนักไว้ว่าทุกท่านเป็นผู้ซึ่ง..............
๕. งานเขียนประเภทจดหมาย
ให้ระบุว่าเป็นจดหมายของใคร ถึงใคร ชื่อเรื่อง วัน เดือน ปี
รูปแบบ
ย่อจดหมายของ.....(ผู้เขียน).......ถึง......(
ผู้รับ).......เรื่อง.......(ชื่อเรื่อง)........ วัน เดือน ปี ..........
ความว่า
.................(ใจความ)................................................................................
...............................................................................................................
ตัวอย่าง
ย่อจดหมายของ นายแพทย์ประเวศ วะสี ถึง บรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน เรื่อง การดำรงชีวิตตามแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ความว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอัฉริยภาพและทรงห่วงใยพสกนิกร..............
๖. หนังสือราชการ
ให้ระบุว่า เป็นหนังสือราชการของใคร ถึงใคร ชื่อเรื่อง เลขที่หนังสือ วัน เดือน ปี
รูปแบบ
ย่อหนังสือราชการของ.........(ผู้เขียน).......ถึง......(
ผู้รับ)......เรื่อง.......(ชื่อเรื่อง)........
เลขที่......(เลขที่หนังสือ)...... วัน เดือน ปี ............. ความว่า
เลขที่......(เลขที่หนังสือ)...... วัน เดือน ปี ............. ความว่า
................(ใจความ)....................................................................
...........................................................................................................................
...........................................................................................................................
ตัวอย่าง
ย่อหนังสือราชการของ กระทรวงศึกษาธิการ ถึง มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เรื่อง ขอเชิญสัมมนาเรื่อง
“แนวโน้มการพัฒนามหาวิทยาลัยในอีก ๒๐ ปีข้างหน้า” เลขที่ ศธ ๒๕๕๑/๒๓๔ ลงวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ความว่า
จากการพัฒนาทางด้านการศึกษาเพื่อก้าวเข้าสู่ความเป็นสากล..............
เทคนิคในการสังเกต
เนื้อหาของบทความไม่ว่าจะเป็นในบทพูดหรือบทเขียน
แบ่งออกเป็น ๓ ลักษณะ ดังนี้
๑.
ข้อเท็จจริง คือ เรื่องราวหรือเหตุการณ์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร มีสภาพ มีลักษณะ มีขนาด มีปริมาณ
ที่สามารถพิสูจน์ได้ เช่น “นายวิโรจน์ ประพฤติดี สอบได้ที่ ๑”
๒.
ข้อคิดเห็น คือ ข้อความแสดงความเชื่อ หรือแสดงแนวคิด
หรือแสดงความรู้สึกที่ผู้กล่าวมีต่อบุคคลใด หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ไม่อาจพิสูจน์ได้ เพราะเป็นเรื่องของความรู้สึกนึกคิดของผู้พูดหรือผู้เขียน
เช่น “นายวิโรจน์ ประพฤติดี คงขยันเรียน”
๓. ข้อความแสดงอารมณ์ความรู้สึก เป็นข้อความที่ทำให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านรู้ได้ว่าผู้ส่งสารมีอารมณ์หรือความรู้สึกอย่างไร
เช่น เศร้าโศก เหงา ดีใจ ฯลฯ เช่น “ผมสะท้อนใจทุกครั้งที่เอาผลการเรียนไปให้คุณแม่
ผมไม่เคยทำตามที่ท่านหวังได้เลยสักครั้ง”
ตัวอย่างย่อความ
เรื่องพ่อค้า ๒ คน
พ่อค้าคนหนึ่ง
มีความจำเป็นต้องเดินทางไปค้าขายยังแดนไกล
เขามีความเป็นห่วงในทรัพย์สินและบ้านเรือนของเขาเป็นอันมาก
แต่ก็จำเป็นที่จะต้องไป
เขามีเพื่อนบ้านเรือนเคียงอยู่คนหนึ่งซึ่งได้คบกันมาเป็นเวลานาน
เพราะมีฐานะเป็นพ่อค้าเช่นเดียวกันกับเขาในครั้งนี้เนื่องจากเขาจะเดินทางเป็นเวลานานมาก
จึงคิดว่าควรจะฝากของมีค่าของเขาไว้เสียกับเพื่อนบ้านเพื่อจะได้เป็นที่ปลอดภัยจากการถูกขโมย
คิดดังนั้นแล้วเขาก็นำเงินแท่งหนักถึงหนึ่งร้อยกิโลกรัม
บรรจุใส่ถุงผ้าอย่างดีนำไปฝากเพื่อนบ้านตามที่คิดไว้ แล้วก็ออกเดินทางไปค้าขายตามความตั้งใจเดิม
หลังจากวันเดินทางหนึ่งเดือนพอดี
พ่อค้าผู้นั้นก็ได้กลับมาถึงบ้านเดิม เขารีบตรงไปหาเพื่อนบ้าน
และออกปากขอเงินแท่งที่เขาได้ฝากไว้ เพื่อนบ้านเขาร้องว่า
“เงินทองเพื่อนนะหรือ ? อนิจจา.... เราเสียใจจริงๆ
ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกันดี หนูมันกินเสียจนหมดแล้วซี
เราดุด่าว่าคนของเรามากมาย
เพราะไม่ค่อยระวังรักษาทรัพย์สินที่เพื่อนนำมาฝากไว้
แต่ก็นั่นแหละอะไรจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ทุกเวลาไม่ใช่หรือ? ” พ่อค้าผู้นั้นแม้จะรู้สึกประหลาดใจเต็มทีแต่ก็ทำเป็นซื่อ
เชื่อถือในเรื่องโกหกที่เขารับฟังจากเพื่อนบ้าน
แต่ในใจของเขานั้นครุ่นคิดหาอุบายที่จะนำเงินแท่งทั้งหมดของเขาคืนมาให้ได้
หลายวันต่อมาพ่อค้าผู้นั้นบังเอิญได้พบกับบุตรชายอายุประมาณ
๑๐ ขวบ ของเพื่อนบ้านซึ่งโกงเงินของเขาไป
จึงได้พาตัวเด็กไปซ่อนไว้ที่บ้านของเขาเองโดยไม่มีใครรู้เห็น
แล้วตัวเขาเองก็ออกไปเชิญเพื่อนบ้านคนนั้นให้ไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกับเขา
แต่ชายพ่อค้าพ่อของเด็กรีบบอกว่า “ขอโทษด้วยเถิด
ขอให้ฉันได้ขอโทษในการที่ต้องปฏิเสธความใจดีของเพื่อนในครั้งนี้สักครั้งเถิด”
ชายเพื่อนบ้านกล่าวด้วยน้ำตานองหน้า ส่วนพ่อค้าแกล้งทำหน้าฉงนอย่างไม่เข้าใจ
ชายเพื่อนบ้านจึงเล่าให้ฟังต่อไปว่า
“ฉันเห็นจะหมดความสุขไปชั่วชีวิตนี้เสียแล้ว
ฉันมีลูกเพียงคนเดียวเท่านั้นเอง ฉันรักเขายิ่งกว่าตัวฉันเองเสียอีก
แต่ว่าโธ่เอ๋ย! อนิจจา... ฉันคงไม่เห็นหน้าเขาอีกแล้ว เขาหายไปไม่รู้ว่าใครมาลักพาเขาไปเสียแล้ว”
กล่าวจบเพื่อนบ้านของพ่อค้าก็ปล่อยโฮออกมาอีกโดยไม่ละอายเลยแม้สักนิด
เมื่อเห็นดังนั้นพ่อค้าจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ก็เรื่องนี่แหละที่เราชวนเพื่อนมากินอาหารเย็นด้วยกัน
เพื่อจะได้ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดี เพราะเมื่อวานนี้ตอนตะวันตกดิน เราได้เห็นนกเค้าแมวตัวหนึ่งถาลงมาโฉบเอาลูกชายของท่านบินหายไปในอากาศ
เราช่วยเขาไว้ไม่ทัน เพราะมันมืดมองไม่เห็นถนัดว่า
นกตัวนั้นมันพาลูกชายของเพื่อนบินไปทางไหน ? ”
ชายผู้เป็นพ่อของเด็กที่หายไปพูดขึ้นว่า
“เพื่อนจะให้เราเชื่อได้อย่างไรกัน? นกเค้าแมวตัวเล็กนิดเดียวเท่านั้นเองจะสามารถโฉบเอาลูกของเราซึ่งมีน้ำหนักมากมายอย่างนั้นไปในอากาศได้อย่างไรกัน?
เพื่อนเอาเรื่องอะไรมาเล่าให้เราฟังกันนี่? ความจริงแล้วลูกเราน่าจะเป็นฝ่ายที่จับนกเค้าแมวตัวนั้นมาขังไว้มากกว่า
ที่จะถูกมันโฉบแล้วพาหายไปในอากาศอย่างที่เพื่อนบอกให้ฟัง”
ชายพ่อค้าตอบว่า “อันนี้เราก็ไม่รู้จะบอกเพื่อนอย่างไรดี
แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะเราก็ได้เห็นมากับตาของเราเอง
แต่ก็รู้สึกว่าไม่น่าสงสัยอะไรเพราะมันน่าจะเป็นไปได้ที่นกเค้าแมวตัวเล็กๆ
โฉบเอาลูกของเพื่อนไปได้ เพราะหนูตัวเล็กๆ
ก็ยังสามารถกินเงินแท่งซึ่งมีน้ำหนักตั้งร้อยกิโลไปได้อย่างสบายๆ นี่นา”
พ่อของเด็กเริ่มเข้าใจว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร
จึงได้รีบวิ่งกลับไปที่บ้านนำเอาเงินแท่งทั้งหมดมาคืนให้พ่อค้าไป
แล้วเขาก็รับตัวลูกชายคืนไป
“นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
อุบายของเราอาจทำลายตัวเราเองได้เช่นเดียวกัน”
(คัดจากนิทานอีสป
รวบรวมโดย วิณณา หน้า ๗๖ – ๘๐)
ย่อหน้าที่ ๑
ประโยคใจความสำคัญ -พ่อค้าคนหนึ่งต้องเดินทางไปค้าขายแดนไกล
เขาจึงเอาเงินแท่งหนักหนึ่งร้อย กิโลกรัมไปฝากเพื่อน
ประโยคพลความที่เด่น
-เพื่อนอยู่บ้านใกล้กัน สนิทสนมกันมานาน
ย่อหน้าที่ ๒
ประโยคใจความสำคัญ -๑
หนึ่งเดือนต่อมาเขากลับบ้านและไปทวงเงินแท่งคืน เพื่อนไม่มีจะคืน
-๒ พ่อค้าทำเป็นเชื่อคำพูด
และคิดอุบายในใจ
ประโยคพลความที่เด่น -๑
เพื่อนบอกว่าหนูกัดกินเงินหมดแล้ว สุดวิสัยที่จะช่วยได้
-๒ พ่อค้าคิดอุบายที่จะเอาเงินคืนมา
ย่อหน้าที่ ๓
ประโยคใจความสำคัญ -๑
หลายวันต่อมาพ่อค้าจับลูกเพื่อนไปขังไว้
-๒
พ่อค้าไปเชิญเพื่อนมารับประทานอาหารด้วยกัน
-๓ เพื่อนปฏิเสธ
-๔
พ่อค้าบอกว่าเห็นนกเค้าแมวคาบลูกชายเพื่อนไป
ประโยคพลความที่เด่น -๑
พ่อค้าพบลูกเพื่อนโดยบังเอิญจึงจับไปขังไว้
-๒ เพื่อนกำลังเศร้าโศกที่ลูกหายไป
ย่อหน้าที่ ๔
ประโยคใจความสำคัญ -๑
เพื่อนไม่เชื่อพ่อค้า
-๒ พ่อค้าบอกว่าเห็นมากับตา
ประโยคพลความที่เด่น -๑
เพื่อนไม่เชื่อว่านกเค้าแมวจะคาบลูกชายได้
-๒
พ่อค้าเปรียบเทียบว่าหนูตัวเล็กๆ ยังกินเงินแท่งได้
ย่อความได้ ดังนี้
ย่อนิทาน
เรื่องพ่อค้าสองคน ของอีสป จากหนังสือนิทานอีสป รวบรวมโดยวิณณา หน้า
๗๖- ๘๐ ความว่า
พ่อค้าคนหนึ่งต้องเดินทางไปค้าขายยังแดนไกล
เขาจึงเอาเงินแท่งหนักหนึ่งร้อยกิโลกรัมไปฝากไว้กับเพื่อนพ่อค้าซึ่งอยู่บ้านใกล้กันและสนิทสนมกันมานาน
หลังจากนั้นหนึ่งเดือนเขากลับมาแล้วรีบไปหาเพื่อนเพื่อรับเงินแท่งที่ฝากไว้คืน
เพื่อนบ้านบอกว่าหนูกัดกินเงินของเขาหมดแล้ว สุดวิสัยที่จะช่วยได้
พ่อค้าทราบว่าเพื่อนของเขาพูดเท็จจึงคิดอุบายที่จะเอาเงินคืนมา
หลายวันต่อมาเขาได้พาบุตรชายของเพื่อนไปซ่อนไว้ที่บ้านของเขา
แล้วไปเชิญเพื่อนบ้านให้มารับประทานอาหารกับเขา เพื่อนบ้านปฏิเสธเพราะกำลังมีความทุกข์ที่ลูกชายหายไป
พ่อค้าจึงบอกว่าเขาเห็นนกเค้าแมวคาบลูกชายของเพื่อนไป แต่เขาช่วยไว้ไม่ทัน
เพื่อนของเขาไม่เชื่อว่านกเค้าแมวคาบลูกชายเขาได้
พ่อค้าบอกว่าไม่น่าแปลกใจเลยเพราะหนูตัวเล็กยังกัดกินเงินแท่งได้
เพื่อนเขาจึงเข้าใจและรีบวิ่งกลับไปบ้านนำเงินแท่งทั้งหมดมาคืน
และรับตัวลูกชายของตนกลับไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น